Skip to main content

การดูแลช่องปากเป็นประจำสำหรับผู้สูงอายุ

เรื่องของการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เป็นเรื่องที่คนทุกเพศ ทุกวัยต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แต่ในวัยผู้สูงอายุมักจะพบเจอปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันมากเป็นพิเศษ เพราะผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน จึงทำให้แคลเซียมภายในฟันลดน้อยลงในทุกๆ วัน ประกอบกับอาจมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดการสูญเสียฟันและอาจเกิดโรคต่างๆ ภายในช่องปากตามมาได้ วันนี้เราจึงมีคำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของผู้สูงอายุมาฝากกัน

การดูแลสุขภาพช่องปาก และฟันเป็นประจำสำหรับผู้สูงอายุ

เมื่ออายุมากขึ้นก็ย่อมต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ แต่สุขภาพช่องปากนั้นมักจะไม่ได้เป็นอันดับแรกๆ ที่เหล่าผู้สูงอายุให้ความสำคัญ ซึ่งแท้จริงแล้วช่องปากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัยและเวลาด้วยเช่นกัน การดูแลให้เหมาะสมนอกจากจะทำให้สุขภาพช่องปากดีแล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมของผู้สูงอายุดีขึ้นและห่างไกลจากโรคแทรกซ้อนอีกด้วย

ข้อควรพิจารนาเป็นพิเศษสำหรับผู้สูงวัย

สภาวะของน้ำลาย

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะผลิตน้ำลายลดลงเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่นการหมดประจำเดือนหรือเป็นผลข้างเคียงจากยาที่หมอให้ อาการนี้เรียกว่า ปากแห้ง การที่น้ำลายลดลงอาจส่งผลทำให้เหงือกและฟันอ่อนแอลงเมื่อเวลาผ่านไป หากการมีน้ำลายในปริมาณที่เพียงพอ เป็นประเด็นหนึ่งที่คุณใส่ใจ ทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อช่วยเพิ่มการผลิตน้ำลาย:

  • อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วทุกวัน และจิบบ่อยๆ

  • เคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาล

  • อมลูกอมเนื้อแข็งที่เป็นแบบไม่มีน้ำตาล

  • อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ (หลีกเลี่ยงการเคี้ยวน้ำแข็งซึ่งอาจเป็นอันตรายกับฟัน)

ไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

การดูแลฟันให้สะอาดและแข็งแรงที่คุณสามารถภาคภูมิใจได้ ไม่ได้มีเพียงแต่การดูแลฟันที่บ้านเท่านั้น นัดพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน และโปรดทราบว่าเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น ทันตแพทย์อาจแนะนำให้คุณนัดตรวจบ่อยขึ้น เช่น ทุกๆ 3 เดือน อย่าลืมว่าหากไม่ดูแล เมื่อคราบก่อตัวเป็นหินปูนจะสามารถขูดออกได้ด้วยเครื่องมือที่คลินิคทันตกรรมเท่านั้น หมายเหตุ: หากคุณไม่มีฟันจริงเหลือแล้ว ก็ยังคงต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเหงือกและฟันปลอม

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง