Popup
 

ฟันถูกทำลายได้อย่างไร

ผู้ต้องสงสัยเจ้าเก่า

how-teeth-become-damaged-gif.gif

how-teeth-become-damaged-gif.gif

ความเสียหายของฟัน 3 ระยะ

ระยะที่ 1: การโจมตีของกรด

เมื่อแบคทีเรียในคราบพลัคกินน้ำตาลจากอาหารก็จะสร้างกรดออกมา กรดดังกล่าวจะโจมตีและทำให้ชั้นเคลือบฟันอ่อนแอลง หากกระบวนการนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ชั้นเคลือบฟันก็จะสึกกร่อนและเกิดฟันผุในที่สุด

ระยะที่ 2: การทำลายชั้นเนื้อฟัน

เมื่อกรดกัดกร่อนชั้นเคลือบฟันแล้ว กรดและแบคทีเรียจะโจมตีชั้นต่อไปของฟัน คือ ชั้นเนื้อฟัน เมื่อฟันชั้นนี้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกจะเริ่มเกิดอาการเสียวฟัน

ระยะที่ 3: การผุลุกลาม

หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา การกัดกร่อนจะดำเนินต่อไปจนกระทั่งถึงชั้นโพรงประสาทฟันซึ่งเป็นฟันชั้นใน ในระยะลุกลามนี้ มักจำเป็นต้องรักษารากฟันในเกือบทุกกรณี

ปกป้องฟันอันล้ำค่าของคุณ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการบ้วนปากของลิสเตอรีน® แนะนำ 7 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

how-teeth-become-damaged-image-4.jpg

1. กินจุบจิบไม่หยุด

การรับประทานของขบเคี้ยวตลอดเวลาหมายความว่า จะมีอาหารไหลเวียนอย่างต่อเนื่องให้แบคทีเรียแปลงไปเป็นกรดที่ทำลายชั้นเคลือบฟัน

how-teeth-become-damaged-image-5.jpg

2. กัดฟันเป็นประจำ

การกัดฟันทำให้ชั้นเคลือบฟันสึกกร่อนและทำให้ฟันเสียหาย การใส่ฟันยางเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดี

how-teeth-become-damaged-image-6.jpg

3. แปรงฟันมากเกินไป

การแปรงฟันมากเกินไปทำให้ฟันเสียหาย โดยทำให้ชั้นเคลือบฟันบางลง ฟันจึงเปราะบางและมีอาการเสียวฟัน

how-teeth-become-damaged-image-7.jpg

4. สิงห์อมควันกับคราบพลัค

การสูบบุหรี่ทำให้ฟันเป็นคราบ และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคในช่องปาก

how-teeth-become-damaged-image-8.jpg

5. ใช้ฟันเป็นเครื่องมือ

เพื่อเห็นแก่ฟันของคุณ โปรดอย่าใช้ฟันเปิดขวดและบรรจุภัณฑ์ต่างๆ

how-teeth-become-damaged-image-9.jpg

6. กัดเล็บเป็นนิสัย

การกัดเล็บอาจทำให้ชั้นเคลือบฟันร้าวหรือบิ่นได้ ทำให้เกิดอาการเสียวฟันและความเจ็บปวด

how-teeth-become-damaged-image-10.jpg

7. แค่อ้าปากพูดก็เห็นความสกปรก

สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดีทำให้เกิดการสะสมของคราบพลัค ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ

เอาชนะแบคทีเรีย